25521230

別に !


เมื่อวานนี้ไปดูหนังเรื่อง I give my first love to you
หรือชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า 僕の初恋をキミに捧ぐ
ปกติไม่ค่อยได้ดูหนังญี่ปุ่นเท่าไหร่
เรื่องนี้นางเอกพระเอกน่ารักมาก ฮ่าๆๆๆ ไม่เกี่ยวอะี่ไร
ระหว่างที่นั่งดูไปก็พยายามฟังภาษาญี่ปุ่นไปด้วย
บางทีถ้าพูดเร็วๆ ฟังไม่ทัน (เช่น ตัวละครผู้ชาย)
ก็จะอ่าน sub-title ข้างล่างคู่กันไปด้วย

มีอยู่ตอนนึง เป็นตอนที่นางเอกทำท่าเหมือนงอนพระเอก
แล้วพระเอกก็ถามว่า "เธองอนอะไรหรอ"
นางเอกก็ตอบว่า ' 別に '
เหลือบไปมอง sub-title ภาษาไทย เค้าแปลว่า "เปล่านิ่"
ก็เลยได้รู้เป็นครั้งแรกว่า เวลาจะตอบปฎิเสธก็ใช้คำนี้ได้เหมือนกัน
วันนี้ตอนไปซื้อของกับแอร์(อาภาพร) นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เลยลองถาม
แอร์บอกว่า คำนี้มาจาก 別にない ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
ใช้ตอบเวลาปฎิเสธก็ได้เหมือนกัน

โอ้ ดูเป็นเรื่องธรรมดาแต่ไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลย เหอๆๆ
:)

25521224

ポートフォリオ目標の発表

เครียดมากจากการสอบวิชา Reading มาอัพบล็ิอกดีกว่า

เมื่อวันอังคาร รายงานเรื่องวัตถุประสงค์ที่จะทำ Portfolio
เรื่องที่ตนเองคิดว่าจะทำก็คือเรื่อง คำช่วย に กับ で
เพราะว่าเป็นเรื่องที่ใช้ผิด และสับสนบ่อยมากว่าจะใช้ตัวไหนดี
บางทีก็ใช่เพราะว่าเดาหรือคุ้นๆว่าเคยใช้ตัวนี้ น่าจะเป็นอย่างนี้
เรียกว่าใช้ตาม sense นั่นเอง - -"
เลยอยากเข้าใจให้กระจ่างเรื่องนี้ซักที เพราะเป็นเรื่องที่ใช้ค่อนข้างบ่อยมาก

ฟังหัวข้อของเพื่อนๆ พี่ๆ ก็มีเรื่องที่น่าสนใจเยอะเลย
บางเรื่องตอนแรกคิดว่าจะทำด้วยอย่างเช่นเรื่อง คำช่วย は กับ が
ส่วนใหญ่พี่ๆจะทำเรื่องเกี่ยวกับ コミュニケーション ค่อนข้างมาก
ส่วนตัวแล้วอยากทำเรื่อง コミュニ่ケーション เหมือนกัน
แต่ชีวิตประจำวันไม่ค่อยได้ติดต่อสื่อสารกับคนญี่ปุ่น(ที่ไม่ใช่อาจารย์)สักเท่าไหร่
เอาไว้คอยดูผลงานของเพื่อนๆ พี่ๆ เพื่อเป็นประโยชน์กับตัวเองแล้วกัน ฮี่ๆ

จะตั้งใจทำผลงาน Portfolio นี้ให้ดีและได้รับความรู้มากที่สุด :)

25521208

銀河鉄道の夜

วันนี้คาบ Jp Conver เป็นคาบที่ให้ฝึกอ่านบทอ่าน
ที่อาจารย์แจกให้ตั้งแต่ต้นเทอม ชื่อเรื่องว่า 銀河鉄道の夜
อ่านให้อาจารย์อิเคะทานิฟัง *ตัวต่อตัว* ด้วยล่ะ ฮ่าๆ

ก่อนหน้านี้จะเป็นการอัดเสียงของตัวเองแล้วส่งให้อาจารย์ฟัง
ซึ่งก็อัดส่งไปแล้วสามครั้ง
ครั้งที่สองที่อัดส่งไป ได้รับการคอมเม้นจากอาจารย์กลับมาด้วย ความว่า..

イントネーションが違っているので発音はできているのに、 
全体として あまり上手に聞こえないのがもったいないです。
かなり 上手になれると思いますので、
イントネーションに気をつけて練習してください。

พออ่านคอมเม้น ก็รู้สึกว่าเป็นอย่างที่อาจารย์เขียนมาจริงๆน่ะแหละ
intonation ไม่ค่อยจะดีเลย เหมือนอะไรบางอย่างหายไป
แล้วอาจารย์ก็เขียนตรงที่เราออกเสียงไม่ชัดเจน หรือยังออกไม่ถูกมาให้
คราวนี้ก็กลับไปฝึก มีอยู่หลายที่ที่ฟังตามไฟล์เสียงของอาจารย์กี่ที
ก็ยังออกเสียงไม่ได้อย่างนั้นซักที
หลายที่ที่รู้สึกว่าออกเสียงแล้วมันขัดกับความรู้สึก
ทำไมมันแปลกๆนะ (แต่จริงๆคือมันถูกแล้ว)
หลายที่ที่คิดว่าตัวเองออกเสียงถูกแล้ว ไม่เห็นต่างจากต้นฉบับเลบ
แต่จริงๆแล้วมันผิด - -
แต่ยังไงก็พยายาม ฝึก ฝึก และ ฝึก
เมื่อวานพอไปอ่านตัวต่อตัว ให้อาจารย์แก้
ปรากฎว่าที่ที่เรากังวลหลายที่ก็ดีขึ้น
แต่มีผิดที่ใหม่มา - - ซะงั้น มีอยู่คำนึงอ่านนานมาก
อาจารย์อิเคะให้ลองฝึกหลายรอบมากๆ เราก็พูดไม่ได้ซักที T T
คำนั้นคือคำว่า "乳" จริงๆมันออกเสียง chi-chi
แต่อาจารย์บอกว่าเราออกเป็น chi-ji
เห้อ ยังต้องฝึกต่อไป がんばろう!


ได้คุยกะเพื่อนๆ เกี่ยวกะเรื่องที่ให้ฝึกอ่านบทอ่านนี้ว่า
ถ้าเกิดว่าสมมติบทอ่านนี้เราออกเสียงได้ดี perfect หมด
แต่พอเริ่มอันใหม่ (ครึ่งเทอมหลัง) เราก็ต้องเหมือนกลับไปเริ่มใหม่อยู่ดี
เหมือนกับว่า ยังไงก็อ่านได้แย่เหมือนเดิม เวลาเริ่มบทอ่านที่ไม่เคยอ่าน
หรือว่าบทอ่านที่ไม่ได้ฝึกหลายๆๆรอบเหมือนอย่างนี้
อืมม ในใจคิดอย่างนี้เหมือนกันนะ
แต่พี่แฟรงค์บอกว่า เดี๋ยวมันก็ติดตัวเราไปเองแหละ
เวลาเราไปอ่านบทอ่านอื่น เราก็จะติดสำเนียงการอ่านอย่างนี้
อย่างที่พี่แฟรงค์ยกตัวอย่าง "それを.." ถ้าเราไปเจอในบทอ่านอื่น
เราก็จะออกเสียงเหมือนที่เราอ่านบทอ่านนี้่
ต้องฝึกไปเรื่อยๆๆ เพือความคุ้นเคยเนาะ
อยากอ่านออกเสียง+พูดสำเนียงดีๆจัง :)

25521204

ドラえもんの漢字 ∙ 熟語を使い分ける



งานที่ทุกคนได้รับมอบหมายจากวิชา Jap Reading II
ก็คือให้ไปอ่านหนังสือ 1 เล่ม เลือกจาก หนังสือ "100 เล่มที่นิสิตเอกภาษาญี่ปุ่นควรอ่าน"
โดยเลือกที่เลือกอ่านนั้นก็คือ
ドラえもんの漢字 ∙ 熟語を使い分ける
เป็นหนังสือที่สอนเรื่องคันจิและคำประสม
หนังสือเล่มนี้อธิบายและยกตัวอย่างดีมากเลย


ตอนแรกๆ จะสอนเรื่องคันจิที่ออกเสียงเหมือนกันแต่ความหมายต่างกัน
เปรียบเทียบตัวอักษรคันจิที่มีความหมายตรงข้ามกัน
แล้วก็มีอธิบายแล้วก็ยกตัวอย่างเรื่องคำที่มีความหมายเหมือนหรือคล้ายกันด้วย
ในส่วนนี้คิดว่ามีประโยชน์อย่างมากในการเลือกใช้คำ
เพราะบางทีตนเองจะเป็นคนที่เลือกใช้คำที่มีความหมายคล้ายๆกันไม่ค่อยถูก
ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้คำไหนดีให้เหมาะสมและตรงความหมาย
ส่วนใหญ่จะใช้ผสมปนเปก็ไปหมด
อย่างในหนังสือเล่มนี้ก็จะมียกตัวอย่างไว้หลายคำเลย เช่น

将来 กับ 未来 ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสองตัวนี้มันต่างกันยังไง
ปกติอยากใช้อะไรก็ใ้ช้ ฮ่าๆๆ แต่ใช้ 将来 บ่อยกว่าเพราะคุ้นเคยกว่า - -"
ในหนังสือเล่มนี้เค้าก็บอกว่า 将来 จะเป็นเรื่องของตัวเอง แต่ว่า
未来 จะเป็นเรื่องที่ดูยิ่งใหญ่กว่า เช่น 未来の世界

อีกคู่นึงก็เช่น 欠点 กับ 短所
欠点 จะใช้กับของหรือเรื่องราวอะไรก็แล้วแต่
แต่สำหรับ 短所 นั้นส่วนใหญ่จะใช้กับคน

なるほど! ^^
มีอีกหลายคำเลย น่าสนใจมากๆ จะได้ใช้ถูกซักทีเวลาเขียนเรียงความหรือพูด


พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วทำให้ได้รู้คันจิและคำศัพท์อื่นๆ
นอกเหนือจากที่เคยเรียน
แล้วก็เป็นการทบทวนสิ่งที่เรียนมาแล้วด้วย
เป็นโอกาสดีที่ได้ทบทวนเพราะรู้สึกว่าเขียนหรืออ่านคันจิได้ไม่ค่อยดีแล้ว
ปีสาม ไม่ค่อยได้ คัด คัด คัด แล้วก็ คัด เหมือนตอนปีสอง
ดีใจหรือเสียใจดี? ฮ่าๆๆ


หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีเล่มนึงเลยนะ
มันช่วยเพิ่มทักษะในการจำตัวอักษรคันจิในรูปแบบใหม่
คือ ผ่านตัวการ์ตูนและภาพประกอบ อ่านไปก็เพลินๆ ดี
ทำให้การเรียนคันจิที่บางคนอาจคิดว่าน่าเบื่อสนุกขึ้นก็ได้ :)

25521202

พาคนญี่ปุ่นทัวร์จุฬาฯ


เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีคนฟิลิปปินส์กับคนญี่ปุ่น ที่เป็นสมาชิก Rotaract Club มาที่จุฬาฯ
คนในชมรม Rotaract จุฬาฯ ก็ต้องพาเค้าทัวร์จุฬาฯด้วย
ตอนแรกที่ได้ยินว่ามีคนญี่ปุ่นมาด้วยก็รู้สึกอยากไปช่วยเค้านำเที่ยวด้วย
อยากฝึกพูดเยอะๆๆ ฮ่าๆๆๆ

มีคนญี่ปุ่นผู้ชายมาสองคน
คนนึงคุยเก่งมาก อีกคนนึงแทบไม่ค่อยพูดอะไรเลย ,,
ส่วนใหญ่ก็เลยจะคุยแต่กับคนที่พูดเก่งๆ เพราะว่าไมรู้จะชวนอีกคนนึงคุยอะไร ฮ่าๆ
รู้สึกว่าตอนที่คุยเรื่องปกติธรรมดา
อย่างเช่น เค้าทำอะไรที่ไหน อยู่จังหวัดอะไร เรียนภาษาไทยมาเท่าไร
อะไรอย่างนี้จะพูดคล่องอยู่
แต่ว่า,, มีช่วงที่จะต้องอธิบาย เวลาพาเค้าเที่ยว
อย่างเช่น ตึกนี่ตึกอะไีร อันนี้สร้างไว้ทำไม
จะนึกคำศัพท์ไม่ค่อยออกเลยอ้ะ - -"
มีอยู่ตอนนึง เดินผ่านต้นจามจุรี แล้วอยากจะพูดว่า
"ต้นจามจุรีเป็นสัญลักษณ์ของจุฬาฯ"
แต่ว่า นึกศัพท์คำว่าสัญลักษณ์ไม่ออก อ๊าก
พาเค้าไปไหว้พระบรมรูปสองรัชกาลด้วย
พูดไปแต่ว่าเป็นผู้ก่อตั้งจุฬาฯ นอกจากนี้ไม่รู้จะพูดอะไร นึกคำไม่ออก T T
รู้สึกว่าเรื่องคำศัพท์เป็นปัญหามาก บางทีรู้นะ แต่คิดไม่ออก เป็นบ่อย
บางทีก็ใช้เวลาคิดนานกว่าจะนึกออก
แต่บางทีก็ไม่รู้เลย แย่จริงๆ

นึกถึงตอนที่อยู่ญี่ปุ่นเลย เมื่อ summer ที่แล้ว
ตอนแรกๆ ที่ไป พูดไม่รู้เรื่องเลย คิดไม่ออก ศัพท์เหมือนติดอยู่ที่ปาก
พออยู่ไปเรื่อยๆ ก็พูดได้มากขึ้น คล่องขึ้น ชวนโฮสคุยบ่อยๆ
อธิบายเรื่องต่างๆ ให้เค้าฟังได้มากขึ้น
พอพูดได้ เลยมีความรู้สึกว่าอยากคุยกะเค้าเยอะๆ รู้สึกสนุกเวลาคุย
แต่ตอนนี้พูดไม่คล่องอีกแล้ว แย่จัง,,
อยากพูดคล่องแคล่ว ไม่ตะกุกตะกัก
ว่าแล้วก็อยากกลับไปอยู่ญี่ปุ่นอีกจัง :)