25530124

タスク6 志望理由書

หลังจากแก้งาน 志望理由書 ครั้งที่3 เัสร็จแล้วก็เลยมาอัพบล็อกซะหน่อย

หลังจากได้ทำ Task นี้ ได้อะไรเยอะมากมายจริงๆ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าชอบวิธีการสอนแบบนี้ของอาจารย์มาก
คือให้ลองเขียนดูเองก่อน แล้วก็ค่อยๆปรับ ค่อยๆแก้ ด้วยตัวเองทีละจุด
เรียนแบบนี้ทำให้จำขึ้นใจดี :)
อ๋อ แล้วก็ได้ดูตัวอย่างของคนอื่นๆด้วย
ทำให้ได้รู้ว่าส่วนที่ดีของเขาที่เราควรจะเอามาใช้คืออะไร
หรือส่วนที่ไม่ดีีของเขาคืออะไร สามารถเอามาปรับใช้ได้

จากที่ได้ลองเขียนเองและดูตัวอย่างมากมาย
ก็ได้เคล็ดลับการเขียน 志望理由書 เยอะมาก เช่น

♥ ตอนที่แนะนำตัวเองใน 段落 แรก ไม่ต้องอธิบายอะไรยืดยาว
ควรเขียนสิ่งที่ตรงประเด็นและสำคัญ เช่น
ได้เรียนอะไรเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นมาบ้าง หรือ ผ่านสอบวัดระดับอะไรมาแล้ว

♥ ใน 段落 2 ต้องอธิบายให้ชัดเจนและละเอียดว่าเราอยากเรียนอะไร
แล้วก็ไม่ควรใช้สำนวนหรือคำที่เป็นการประเมิน
หรือคำที่ไม่ได้แสดงการอธิบายที่เพียงพอ

♥ ใน 段落 3 ไม่ควรเขียนความฝันระดับประเทศหรืออะไรที่ยิ่งใหญ่เกินไป
หรือเขียนอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียนมา

♥ ต้องใช้คำและสำนวนที่เป็น 書き言葉 !!

นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้รูปประโยคต่างๆที่ควรใช้ด้วย
หลังจากที่ได้เขียนถึงครั้งที่สามแล้วก็ู้สึกว่าพัฒนาขึ้น
ครั้งที่สามนี่จะเขียนได้ละเอียดมากที่สุด
ทั้งตรงที่อยากไปเรียนเกี่ยวกับอะไร แล้วก็ตรงแนะนำตัว
(ตอนเขียนครั้งแรกลืมเขียนชื่อกับแนะนำตัวด้วย ฮ่าๆๆ)
แต่ไม่รู้ว่าจะผิดอะไรบ้าง เหอๆ ต้องรออาจารย์ตรวจ
ตอนที่จะต้องส่ง Study plan ให้ Soka University
Task นี้คงมีประโยชน์มากมายเลยทีเดียวเชียว :)

สุดท้าย ชอบประโยคนี้มาก อธิบายความเป็น 志望理由書 ได้ดี
志望理由書 とは、「勉強させてください」という気持ちを伝えるもの

25530115

ขอบคุณ หรือ ขอโทษ?

เรื่องที่จะอัพวันนี้จริงๆไม่ค่อยมีความเกี่ยวข้องอะไรเท่าไหร่ ฮ่าๆๆ
คือว่าเมื่อวันก่อน พยายามรีบวิ่งให้ทันลิฟท์ที่คณะ
แล้วก็ทันจริงๆด้วย ฮ่าๆ พอเข้าไปก็ูพูดว่า "ขอโทษค่ะ"
แล้วก็คิดขึ้นมาว่า เอ๊ะ พูดเหมือนคนญี่ปุ่นเลยแฮะ
เพราะในสถานะการณ์นี้คนไทยส่วนใหญ่มักจะพูดว่า "ขอบคุณค่ะ/ครับ"
อย่างคนญี่ปุ่น คนที่เข้าลิฟท์มาทีหลังก็มักจะพูดว่า "すみません"
ตอนที่ไปญี่ปุ่นนี่ไม่คุ้นเลยที่ต้องพูด すみません
แต่อยู่ไปๆก็ชินเอง แล้วพอกลับมาไทย
เวลาขึ้นลิฟท์ก็มักจะพูด "ขอบคุณค่ะ" เหมือนเดิม
อันนี้คิดได้สองแง่เนอะ
"ขอบคุณ" ที่เค้ารอเรา อุตส่าห์กดลิฟท์ให้ด้วย
"ขอโทษ" ที่เราทำให้เค้าลำบาก ต้องมารอเรา ทำให้ลิฟท์ไปช้า
แค่นี้ีคนไทยกับญี่ปุ่นก็คิดต่างกันแล้ว

25530109

タスク5 飛行機

สัปดาห์นี้ได้เอา Script ที่อัดเสียงพูดสดมาแลกกับเพื่อนในห้องดู
แล้วก็ได้เรียนเกี่ยวกับเรื่อง 「~ている」 ด้วย

จากแผ่นกระดาษเฉลยที่เป็น Script ของอาจารย์ชาวญี่ปุ่น
ก็พบว่ามีหลายๆ รูปประโยคที่ไม่เคยใช้เลย ได้รู้จักเป็นครั้งแรกจากเฉลยนี่แหละ
ตัวอย่างเช่น . . .

♪ Vdict はずだった
เป็นการบอกถึงเรื่องที่จะทำในอดีตแน่ๆ แต่ว่าไม่ได้ทำ
อย่างใน Script บอกว่า
「自分が乗るはずだった飛行機に明美は乗れませんでした。」
หมายถึงว่า ไม่ได้ขึ้นเครื่องบินที่ตอนแรกจะต้องขึ้น(แน่ๆ)
ใน Script ของตัวเองตอนนึงเขียนเกี่ยวกับเครื่องบินว่า
「その乗らなかった飛行機 . . .」
ดูความไฮโซ ต่างกันมากมาย ฮ่าๆๆ

♪ _______~すれば/したら、_______~ている/ていた。
เป็นการอธิบายถึงเรื่องที่ตรงข้ามความจริงในอดีต
คล้ายๆกับ if clause แบบที่สามในภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างใน Script ว่า
「あのひこうきに乗っていたら、死んでいただろう。」
เป็นการคิดกับตัวเองว่าถ้าเกิดขึ้นเครื่องบินนั้นไปเนี่ยนะก็คงจะตายไปแล้ว
(ตรงข้ามกับความจริง => จริงๆแล้วไม่ได้ขึ้นเครื่องบินลำนั้น แล้วก็ไม่ได้ตาย)
เคยสงสัยเหมือนกันว่ามีรูป if clause ในภาษาญี่ปุ่นรึเปล่า?
คราวนี้ก็ได้รู้แล้ว ใช้รูปประโยคนี้นี่เอง :D

นอกจากนี้ รูป「~ている」ที่อาจารย์ได้สอนในคาบนั้นก็ยังมีอีกหลายกรณี
ทั้งกรณีที่ใช้บ่อยๆ อย่างเช่นแบบ 継続、結果の状態、現在の習慣
แล้วก็มีที่ไม่ค่อยได้ใช้ด้วย คือเป็นประเภทที่เรียกว่า
経験/経歴/歴史的現在/記録
เป็นการบันทึกตัวเลข สถิติเอาไว้ (เหตุการณ์จบไปแล้ว)
รูปประโยคนี้แปลก ถึงแม้วาเหตุการณ์จะจบลงไปแล้ว แต่ก็ยังใช้รูป 「~ている」
อย่างเช่น 「その本は何年も前に読んでいる。」

เข้าใจเรื่อง 「~ている」มากขึ้นอย่างมากเลยเพราะ タスク นี้
ไว้คราวหน้าจะอัพเรื่องเกี่ยวกับหัวข้อ Portfolio แล้ววว ~
เดี๋ยวจะไม่ทัน ;P

25530101

ただし

明けましておめでとうございます!
ก่อนอื่นต้องพูดคำนี้ก่อน เพราะวันนี้เป็นวันแรกของปี 2010
เย่ เริ่มต้นปีใหม่ อะไรที่ไม่ดีในปีที่แล้วก็ทิ้งไป แล้วเริ่มใหม่ ^^

หลังจากที่อัพเรื่อง 別に ไปเมื่อวานซืน
วันนี้จะอัพเรื่องเกี่ยวกับ 作文 เรื่องหนึ่งที่หัวข้อ ゴミ
ตอนที่เขียนแก้ครั้งที่ 3 เสร็จ
池谷先生 ก็เขียนคอมเม้นกลับมาว่า
OK. ただし、アドレズは必ず書いておくようにしてください。

เคยเรียนในวิชา Jap Reading II เกี่ยวกับคำสันธานเยอะแยะมากมาย
รู้สึกว่าจำยังไงก็จำไม่หมด - -"
เห็นคำสันธานนี้ เลยนึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นก็เจอ ただしเหมือนกัน
ตอนนั้นอาจารย์อัษฎายุทธอธิบายว่า ただし จะใช้ตอนที่เป็นประโยคขัดแย้ง
แต่สิ่งที่ขัดแย้งในประโยคหลังจะเป็นเรื่องยิบย่อยลงไป ไม่ใช่เรื่องหลัก
ก็คือ อาจารย์บอกว่าโดยรวมทั้งหมด OK แ้ล้ว แต่ให้เขียน address ด้วย
(ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องหลัก) เข้าใจว่าประมาณนี้นะ ฮ่าๆๆๆ
เอาไว้วันหลังถ้าเจอกรณีแบบนี้จะได้ใช้คำ ただし เป็นซักที
ปกติไม่เคยใช้เลย เพราะไม่เข้าใจความหมายที่ชัดเจน คือ กลัวผิดนั่นเอง หุหุ

จากที่อาจารย์เขียนมา แอบไม่เข้่าใจนิดนึงว่าทำไมต้อง 書いておく
ใช้เป็น 書く เลยไม่ได้หรอ? เหมือนกับ "เขียนเตรียมไว้" รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้