25521122

タスク1 相手は何を知っているか??

タスク1 เป็นการฝึกเขียนอีเมล์ถึงคนญี่ปุ่น เป็นอะไรที่มีประโยชน์มากๆ เลย ^^

ได้ทำ タスク เขียนเมล์ 3 ครั้ง ครั้งแรกที่เขียนตามโจทย์ที่อาจารย์ให้มายังรู้สึกงงๆ กะโจทย์อยู่
เวลาที่เขียนก็ประมาณ 15 นาที รู้สึกเขียนได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก
ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีแบบฝึกหัดการเขียนอีเมล์หรือจดหมายเท่าไหร่นัก
เลยไม่รู้ว่าวิธีการเขียนที่ถูกต้องเป็นอย่างไรบ้าง
การเขียนครั้งแรกเลยเขียนไปอย่างไม่ค่อยมีรายละเอียดชัดเจน ไวยากรณ์ก็ไม่ค่อยถูก
นอกจากนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าคนที่เราจะเขียนไปถึงนี้ เราต้องให้ความสุภาพกับเขามากเพียงใด
(โดยปกติ เป็นคนที่ใช้คำยกย่อง คำสุภาพมากๆ ไม่ค่อยเป็นอยู่แล้วด้วย - -")

การเขียนครั้งที่สอง ได้ใส่รายละเอียดเข้าไปในเมล์มากขึ้น
ก่อนที่จะเขียนครั้งที่สองนี้ได้มีการแลกกันอ่านเมล์ของเพื่อนด้วย
ทำให้ได้รู้ว่าสิ่งไหนที่เป็นข้อบกพร่องของเราและของเพื่อน
สิ่งไหนที่เราควรจะเขียนลงไปในอีเมล์ด้วย แต่ไม่ได้เขียนลงไป
เช่น ในส่วนที่ต้องการขอรายละเอียดเพิ่มเติมนั้นไม่ได้เขียนระบุลงไปว่าต้องการรายละเอียดอะไรบ้าง
เขียนไปเพียงแค่ว่า 詳しい情報を教えていただけたいと思います。
ซึ่งผู้รับอาจจะไม่รู้ว่าเราต้องการรายละเอียดอะไรบ้าง
ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อเราที่อาจจะไม่ได้รับข้อมูลครบตามที่ต้องการ
ครั้งที่สองนี้เลยเขียนรายละเอียดที่เราต้องการรู้ไปเป็นข้อๆ
(ได้รับแรงบันดาลใจจากพี่อานนท์ ^^ ที่เขียนเป็นข้อๆ อ่านง่าย เข้าใจง่ายมากๆ)
เพราะว่าทำให้เกิดความชัดเจน ผู้ตอบจะได้ตอบคำถามที่เราอยากรู้ได้ครบถ้วน
นอกจากนี้ จากที่อาจารย์สอนในห้องเรียน ก็ยังได้รู้วิธีเขียนเมล์มากขึ้น
เช่น จะไม่ใช้ へ ตามหลังชื่อคนที่เราเขียนไปถึง และไม่ใช้ さん ต่อท้ายชื่อเขา แต่จะใช้ 先生 หรือ 様 แทน
แล้วก็ได้รู้คำลงท้ายจดหมายที่ว่า お返事は急ぎませんが、เป็นคำที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
ปกติรู้จักแต่คำว่า お返事を待っております 。
รอบสองนี้ ลืมใส่ชื่อตัวเองท้ายอีเมล์ซะอย่างงั้น - -"

การเขียนครั้งที่สาม จากครั้งที่สองอาจารย์กนกวรรณแก้ไวยากรณ์ที่ผิดค่อนข้างเยอะ
เช่น รูปประโยคคำถาม เนื่องจากเป็นคนที่ควรยกย่อง จึงควรใช้รูป ~でしょうか。แทน ~ますか。
แล้วก็ใช้คำสันธานผิดความหมายอีกแล้ว
(รู้สึกมานานว่าการใช้คำสันธานเป็นปัญหาสำหรับตนเองมาก อยากใช้ให้ถูกต้องซักที - -")
อีกทั้ง ยังต้องแก้ไวยากรณ์ที่เกี่ยวกับ Tense&Aspect ด้วย เช่น ในประโยค
この間、修二様のホームページを見て、個人レッスンを受けたいと思っています。
ประโยคนี้ควรเปลี่ยน と思っています。เป็น と思いました。
เพราะว่ามีคำว่า ~見て、แสดงว่าพอเราเห็นก็อยากเรียนขึ้นมา ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังคงอยากเรียนอยู่ก็ตาม
การเขียนครั้งที่สามนี้จึงระมัดระวังเรื่องไวยากรณ์มากเป็นพิเศษ
แล้วก็ยังมีเรื่องการถามเกี่ยวกับเรื่องเงิน (ค่าเรียน) ที่ไม่ควรใช้คำที่มีคำว่าเงินโดยตรง
เพราะเป็นการถามที่ตรงเกินไป คนญี่ปุ่นมักจะไม่ใช้กัน
เลยเปลี่ยนเป็นใช้รูปประโยค 一時間はどのぐらいかかるでしょうか。แทน
ครั้งที่สามนี้ไม่ลืมลงชื่อตัวเองท้ายอีเมล์แล้ว ^^
การเขียนครั้งที่สามรู้สึกพอใจมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ดีมาก ยังมีอะไรที่ต้องแก้ไขและพัฒนาอีก
แล้วก็การเขียนครั้งนี้ยังทำให้เห็นไวยากรณ์ที่เราใช้ผิดบ่อยอีกด้วย


นอกจากสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเขียนของตนเองแล้ว ยังได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ จากการเขียนของเพื่อนและจากตัวอย่างในชีทด้วย เช่น
- ควรบอกรายละเอียดให้ชัดเจน เช่น เรียนมา 5 ปี นั้น จริงๆแล้วเรียนมาถึงระดับไหนแล้ว เป็นต้น
- การใช้คำว่า 経験になる และ 役に立つ เป็นคำที่กำกวม ไม่ได้อธิบายรายละเอียดที่ชัดเจน
จึงไม่ควรนำมาใช้ในการเขียน
- การบอกว่าเราเป็นแฟนคลับและติดตามผลงานของผู้เขียนก็เป็นสิ่งที่น่าจะนำมาเขียนด้วย
- ได้เรียนรู้สำนวนใหม่ๆ เช่น お手数ですが、ใช้เพื่อเกริ่นว่าต้องการจะรบกวนอะไรบางอย่าง


การเขียนอีเมล์ครั้งนี้ทำให้รู้ว่าการเขียนอีเมล์นั้นต้องคำนึงถึงอะไรหลายๆ อย่างมากเลย
โดยเฉพาะอย่างยื่ง สิ่งที่สำคัญ คือ เราต้องคำนึงถึงคนที่อ่านเมล์เราด้วย
ต้องคำนึงว่าผู้อ่านเป็นใคร และเขาจะเข้าใจความหมายที่เราต้องการจะสื่อสารหรือไม่
เพื่อให้จุดประสงค์ที่เราเขียนอีเมล์นั้นบรรลุตามที่ต้องการ :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น